หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พระเจ้าไม่ผันเเปร

มาลาคี 3:6 " เพราะว่าเราคือพระเจ้าไม่มีผันเเปร โอ บุตรยาโคบเอ๋ย เจ้าทั้งหลายจึงไม่ถูกเผาผลาญหมด "

พระเจ้าไม่เปลี่ยนเเปลง กาลเวลาไม่มีผลกระทบต่อพระองค์ ธรรมชาติเปลี่ยนพระองค์ไม่ได้ ความคิดของมนุษย์เปลี่ยนพระลักษณะของพระเจ้าไม่ได้ ไม่มีสักสิ่งเดียวในจักรวาลที่จะมาเปลี่ยนเเปลงความเป็นพระเจ้าได้ พระองค์เป็นผู้ที่พระองค์เป็น พระองค์เป็นเยโฮวาห์ เป็นพระเจ้าที่ดำรงเหนือกาลเวลา พระองค์ผู้ทรงสร้างทุกสรรรพสิ่ง พระเจ้าโดยธรรมชาติของพระองค์นั้นไม่เปลี่ยน นั้นหมายความรวมถึงในขณะที่พระองค์ถือกำเนิดในรางหญ้า พระองค์ก็ยังคงเป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ขณะที่พระองค์ถูกโบยตี ถูกเยาะเย้ยพระเจ้าก็คงเดิม ตอนที่พระองค์ถูกตรึงบนไม้กางเขนอย่างทรมาน พระองค์ก็ยังคงเป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ผู้ที่มีสวรรค์เป็นบัลลังค์เเละเเผ่นดินโลกเป็นที่วางเท้าอยู่เช่นเดิม ธรรมชาติเเละเเก่นเเท้ของพระองค์ จะไม่ถูกเปลี่ยนเเปลงไปโดยสภาพเเวดล้อมรอบตัวพระองค์ แม้กระทั่งเราคิดไปเองว่าพระเจ้าไม่รัก ไม่ดี ไม่มีจริงเเต่ความคิดอันต่ำต้อยของเราก็เปลี่ยนตัวตนของพระเจ้าไม่ได้ พระลักษณะของพระเจ้า ความรัก ความเมตตา พระคุณ ความชอบธรรม ความบริสุทธ์ ธรรมชาติของพระเจ้าเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนตั้งเเต่เเรกเริ่มจนกระทั่งถึงความเป็นนิรันดร ภูเขาลูกใหญ่ที่สุดในโลกยังมีการเคลื่อนไหว เเม่น้ำก็ขยายตัวขึ้นในทุกๆปี เเผ่นดินที่เราเดินอยู่ ในทุกปีจะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก เเม้กระทั่งดวงอาทิตย์ยังมีการเปลี่ยนเเปลง เเล้วมนุษย์ที่เทียบไม่ได้เลยกับธรรมชาติจะมีการเปลี่ยนเเปลงบ้างหรือเปล่า? เเน่นอน มนุษย์เปลี่ยนเเปลงตลอดเวลา ตัวเราเองเมื่อ 10ปีที่เเล้วกับตอนนี้คงต่างไปจากเดิมมากๆ หรือเเม้กระทั่งความคิดเเละจิตใจของเราก็สามารถที่จะเปลี่ยนได้เพียงเเค่มีบางสิ่งมามีผลกระทบกับความรู้สึก ฉะนั้น มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ไม่ผันเเปร

มนุษย์มีแผนงานมากมายเเต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่เเผนงานของพวกเค้าจะสำเร็จเเต่พระเจ้าไม่ใช่ พระองค์มีเเผนงาน เเละเเผนงานของพระองค์เมื่อตั้งต้นเเล้วจะต้องสำเร็จ พระองค์จะไม่ล้มเลิกกลางคัน พระเจ้าตรัสว่า พระองค์จะทรงส่งพระผู้ช่วยให้รอดมาให้กับเรา เพื่อช่วยเราให้พ้นจากความบาป พระเยซูก็ถือกำเนิดในโลกเพื่อตายไถ่บาปให้กับคนบาป พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ ในฮิบรูบทที่ 13:8 "พระเยซูคริสต์ทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ เเละเวลาวันนี้ เเละต่อๆไปเป็นนิจกาล "มีช่วงเวลา 3 ช่วงในข้อพระคัมภีร์นี้ อดีต ปัจจุบันเเละอนาคตจนถึงนิรันดร นั้นคือ พระเยซูไม่มีการเปลี่ยนเเปลงเกิดขึ้นกับพระองค์ หมายความรวมถึง เมื่อพระองค์ตรัสว่าพระองค์รักเรา ก็หมายถึงก่อนหน้าที่เราจะรู้จักพระองค์ พระเยซูก็รักเรา ตอนนี้ก็รัก เเละจะรักเราตลอดไป!!! โดยธรรมชาติของพระเจ้าที่ไม่มีการผันเเปรเเบบนี้เองทำให้พระองค์เป็นผู้เดียวที่ควรเเก่การไว้วางใจของเรา เพราะพระเจ้านั้นสัตย์ซื่อเสมอ

บุตรของยาโคบหรืออิสราเอลคือใคร? หมายถึงเพียงเเค่เหล่าบรรดาบุตรทั้ง 12 คนเท่านั้นหรือ? ข้อพระคัมภีร์ไม่ได้บอกอย่างนั้น สำหรับผู้ที่เชื่อเราก็คือผู้ที่ได้รับมรดกตามพระสัญญาที่ไม่เปลี่ยนเเปลงของพระองค์ เราเป็นบุตรของอับราฮัมโดยความเชื่อ เป็นผู้ที่ได้รับมรดกผ่านทางความเชื่อในพระองค์ นั้นคือความรอด รอดจากการตายเป็นนิรันดร ที่พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานให้กับผู้ที่เชื่อในพระองค์ ในพระธรรมยากอบบทที่ 1:17 " ของประทานอันดีทุกอย่างและของประทานอันเลิศทุกอย่างย่อมมาจากเบื้องบนเเละส่งลงมาจากพระบิดาเเห่งบรรดาดวงสว่าง ในพระบิดาไม่มีการเเปรปรวน หรือไม่มีเงาเเห่งการเปลี่ยนเเปลง " สิ่งที่ดีที่สุดย่อมมาจากเบื้องบน พระเจ้ารู้จักเราดีที่สุดเเละจะประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเราเสมอ เเละในความเป็นจริง พระองค์ได้ประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเราเเล้ว พระเยซูนั่นเอง!!! ความรอดที่เราได้รับอย่างที่ไม่สมควรจะได้รับเป็นพระคุณที่ยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าประทานให้กับเรา สิ่งที่เราเห็นนั้นไม่มีความมั่นคงทั้งเรื่องกำลังหรือสติปัญญาของตัวเราเอง หรือเราอาจจะรวมไปถึงคนอื่นๆรอบข้างเรา ทั้งหมดนั้น ไม่มีความมั่นคงอยู่ในตัว ถ้ามีปัจจัยอะไรมากระทบนิดหน่อยย่อมเกิดการเปลี่ยนเเปลง เหมือนกับเงาที่เคลื่อนไหวเปลี่ยนเเปลงตลอดเวลา เเล้วคำถามคือเราสามารถที่จะไว้วางใจในสิ่งที่ไม่มั่นคงได้รึเปล่า? ถ้าเกิดสิ่งที่เราไว้วางใจในวันนี้ พรุ่งนี้ไม่อาจเหมือนเดิมเราจะทำอย่างไร? ฉะนั้น สิ่งเดียวที่ไม่มีวันเปลี่ยน ไม่มีวันทรยศ คู่ควรเเก่การไว้วางใจนั้นมีเพียงผู้เดียว คือพระเจ้า เพราะพระเจ้าไม่ผันเเปร!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น