หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เกลือ!!!


มัทธิว 5:13 " ท่านทั้งหลายเป็นเกลือเเห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกอย่างไรได้ เเต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีเเต่จะทิ้งเสียสำหรับคนเหยียบย่ำ "

พระเยซูทรงเริ่มต้นเทศนาสั่งสอนบนภูเขา เเละมีคนเป็นจำนวนมากที่มาฟังพระองค์ ในข้อที่ 13 นี้พระเยซูทรงบอกว่า ท่านทั้งหลายเป็นเกลือของโลก พระองค์พูดถึงบรรดาสาวกที่ตัดสินใจติดตามพระองค์ว่าเป็นเหมือนดั่งเกลือ เเละในข้อที่ 14-15 ของพระธรรมมัทธิวยังบอกต่อไปอีกว่าท่านนั้นเป็นความสว่างของโลก พระเยซูทรงสอนหลักการดำเนินชีวิตของสาวกให้กับเราฟัง เกลือมีประโยชน์อย่างไร? อย่างเเรก เกลือนั้นมีไว้ช่วยในการถนอมอาหาร ยับยั้งการเน่าเปื่อยของอาหาร เช่นปลาเค็ม ไข่เค็ม พระเยซูเปรียบเทียบสาวกที่คอยยับยั้งการเน่าเปื่อยของโลกนี้ให้เป็นเหมือนกับเกลือ มีคนอีกจำนวนมากที่ไม่รู้จักพระเจ้า เเละกำลังเดินไปสู่หนทางที่พินาศเเละความตาย พระองค์ต้องการให้สาวกของพระองค์ทำหน้าที่ในการยับยั้งการเน่าและการตายนี้ เพระพระคริสต์นั้นลงมาเพื่อช่วยทุกคนให้รอด เเละใน มัทธิว 28 :19-20 พระมหาบัญชาของพระเจ้าที่บอกให้เรานั้นออกไปประกาศ ทำหน้าที่ดุจดั่งเกลือของโลก

เเละเกลือยังสามารถที่จะใช้ในการรักษาบาดเเผลได้อีกด้วย เราเอาเกลือมาทำเป็นน้ำเกลือในการชำระล้างบาดเเผลสกปรก จินตนาการว่าตัวเองมีเเผลสดที่ต้องทำการรักษา เเน่นอนถ้าเป็นอย่างนี้หมอคงต้องรีบล้างเเผลเราด้วยน้ำเกลือให้สะอาด ก่อนที่จะทำเเผล ฉะนั้นเราต้องการการชำระให้สะอาดด้วยน้ำเกลือในกรณีที่เป็นเเผล อาจจะเเสบ เจ็บปวดเมื่อถูกล้างด้วยน้ำเกลือเเต่มันจะหายเเละไม่มีการติดเชื้อ เราต้องการการรักษา มนุษย์ที่เป็นคนบาปต้องการ การรักษาที่มาจากพระเจ้าความรู้สึกผิดในจิตใจเนื่องจากการกระทำความบาปเป็นเหมือนเเผลสดที่เกิดกับเรา ยิ่งปล่อยไปนานวันเข้า เเผลจะกว้างขึ้นนำความเจ็บปวด ความเศร้ามาให้เรา บาดเเผลที่เกิดจากการลงทุนของโลกจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยพระวจนะของพระเจ้า ครั้งเเรกที่ได้ยินความจริง ความจริงจากพระเจ้าจะทำหน้าที่เหมือนน้ำเกลือในการล้างบาดเเผล มันจะเปิดเผยสิ่งที่ไม่ดีของเรา เเต่พระเจ้าจะรักษาเราให้หาย ซึ่งต่างจากหลักปรัชญาของโลกที่เราได้ยินมาตั้งเเต่เล็กที่บอกว่า ถ้าเราทำบาปหรือทำความผิดอะไร ก็ให้เราซื้อบางสิ่งบางอย่างหรือเอาเงินก็ได้ ไปให้คนที่เเต่งกายต่างจากเรา เคร่งในกฏมากกว่าเรา เเล้วเราจะหายจากความรู้สึกผิด...นั้นไม่จริงเป็นคำโกหก ผมเคยรู้สึกผิดมากกับการกระทำของตัวเองในอดีต เคยยึดหลักปรัชญาอย่างเคล่งครัด ปิดตาเเล้วคิดไปว่าเราไม่มีจริง เเล้วจะลืมความรู้สึกผิดไปได้เเต่ในความเป็นจริงเมื่อลืมตาขึ้น เรายังอยู่ที่เดิม ความรู้สึกผิดยังอยู่เหมือนเดิม ปรัชญาของโลกเเค่บอกให้เอาผ้าขาวๆมาพันบนเเผลสดๆ เเล้วพร่ำบอกตัวเองว่า ไม่เจ็บๆๆๆๆ ไม่มีเเผลๆๆๆๆ เเต่มันช่วยอะไรไม่ได้!!!! พระเจ้าต่างหากที่รักษาเราได้อย่างเเท้จริง พระองค์เปิดเเผลออกด้วยความจริงจากพระองค์ ว่าเราเป็นคนบาปเรารอดด้วยตัวเองไม่ได้เเละพระเจ้าบริสุทธ์ ครั้งเเรกที่เปโตรพบพระเยซู เปโตรมีปฏิกิริยาอย่างไร? ในลูกาบทที่ 5:8 เมื่อเค้ารู้ความจริงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นพระเจ้าเเละตัวเค้าเองเป็นเพียงเเค่คนบาป เปโตรก้มกราบลงพร้อมบอกว่า " พระองค์เจ้าข้า ขอเสด็จไปให้ห่างจากข้าพระองค์เถิด เพราะว่าข้าพระองค์เป็นคนบาป " นี้เป็นปฏิกิริยาที่ความจริงถูกเปิดเผย พระเจ้าบริสุทธ์ มนุษย์เป็นคนบาป เปโตรกลัว ไม่กล้าให้พระเยซูเข้าใกล้ เหมือนเเมลงสาปเจอกับเเสงสว่าง....เเต่นั้นเพียงเเค่ความจริงอย่างเดียว ซึ่งขอบคุณพระเจ้าที่ พระเจ้าของเราไม่มีเเค่ความจริงด้านเดียวเเต่พระองค์มีพระคุณด้วย ในยอห์น 1:17 " พระคุณเเละความจริงมาทางพระเยซูคริสต์ " พระเยซูมีพระคุณที่มาพร้อมกับความจริง ถ้ามีเพียงความจริงเราคงเป็นเหมือนเปโตร ขอให้พระองค์ออกห่างจากเราเเต่เมื่อเราได้สัมผัสถึงพระคุณของพระเจ้า เราจะไม่ลืม เหมือนเปโตรหลังจาก 3 ปีผ่านไปในยอห์น 21 เปโตรออกไปหาปลา เเละพระเยซูก็ฟื้นขึ้นจากความตายมาปรากฏต่อหน้าเค้าอีกครั้ง ครั้งนี้เปโตรไม่ได้บอกว่า ขอให้ถอยห่างไปเเต่เป็นฝ่ายเปโตรเองที่รีบกระโจนลงน้ำไปหาพระเยซู ความจริงเปิดเผยเพื่อที่เราจะได้กลับใจ ยอมรับการรักษาด้วยพระคุณเเละความรักจากพระเจ้า!!!!

ท่านเป็นเกลือของโลก นี้คือสิ่งที่พระเยซูบอกกับเราที่เป็นผู้เชื่อ ผู้เชื่อที่ได้รับการรักษาจากพระองค์ เเละตอนนี้ก็เป็นผู้ร่วมงานของพระเจ้าในการรักษาคนที่หลงผิด เราสามารถใส่เกลือลงในอาหาร เเต่เราไม่สามารถใส่เกลือลงในเกลือให้กลับมาเค็มได้อีก ถ้ามันหมดรสเค็มเเล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไร พระเยซูสอนให้เราดำเนินชีวิตเป็นเหมือนกับเกลือที่รักษาความเค็มของมันไว้ตลอดเวลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น