หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พระวิหารของพระเจ้า ตอนที่ 2

ตอนที่ 2...

เมื่อโมเสสสร้างพลับพลาเสร็จแล้ว ซึ่งรายละเอียดเยอะมากๆ พวกเขา ชนชาติอิสราเอลจะทำพิธีถวายพลับพลาที่ประทับ และพลับพลารวมไปถึงข้าวของทุกชิ้นในพลับพลาจะต้องถูกประพรมด้วยเลือดของลูกแกะ เคยได้ยินคำนี้มั้ยครับ แพะรับบาป หมายถึงคนที่ไม่มีความผิดอะไรเลยแต่ต้องมารับโทษแทนอีกคน คนที่ไม่มีบาปต้องมารับบาปแทน แกะถูกฆ่าเพื่อนำเลือดมาประพรมทั่วทั้งพลับพลา ทำไมต้องทำอย่างนั้น ทำไมพระเจ้าต้องให้อิสราเอลฆ่าแกะและนำเลือดมาใช้ด้วย....ประเด็นมันอยู่ที่นี่ ใน ฮิบรูบทที่ 9:22 บอกว่า " ความจริงนั้นตามพระบัญญัติถือว่า เกือบทุกสิ่งจะบริสุทธ์เพราะโลหิต และถ้าไม่มีโลหิตไหลออกแล้ว ก็จะไม่มีการอภัยบาปเลย " อีกข้อหนึ่งอยู่ใน เลวีนิติบทที่ 17:11 " เพราะว่าชีวิตอยู่ในเลือดและเลือดเป็นสิ่งที่ลบบาป "

สรุปก็คือ พลับพลาที่ประทับของพระเจ้าที่พระองค์ให้โมเสสสร้างเมื่อเกือบสามพันปีก่อน จะเป็นที่ประทับหรือพระวิหารของพระองค์ได้นั้น มันจะต้องถูกชำระด้วยโลหิต เลือดก่อน แกะจะต้องตาย จำเป็นที่แกะที่ไม่มีตำหนิจะต้องตายเพื่อนำเลือดมาชำระพลับพลา มหาปุโรหิตจะเป็นคนฆ่าแกะและเป็นคนที่นำเลือดไปประพรมพลับพลารวมไปถึงตัวเขาเองด้วย อย่าลืมว่าอาโรนมหาปุโรหิตที่เป็นเผ่าเลวีนั้นก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง เขาจะต้องถูกชำระด้วยโลหิตของแกะด้วยเช่นเดียวกันเพื่อที่ตัวเขาเองจะได้ บริสุทธ์ เพราะว่าตามตัวอย่างข้างต้นนั้น ถ้าคนที่รักความสะอาดมากที่อยู่ของเขาก็ต้องสะอาดด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกัน พระเจ้านั้นบริสุทธ์ พระองค์ไม่มีความบาปที่ประทับของพระองค์ก็ต้องไม่มีความบาป พระเจ้าเป็นความสว่างฉะนั้น ที่ประทับของพระเจ้าต้องไม่มีความมืดอยู่เลย พระองค์เป็นความรัก ที่ประทับของพระองค์มันจะไม่มีความทุกข์ความเสียใจ สรุปก็คือ พลับพลาที่พระเจ้าให้โมเสสสร้างขั้นนั้นก็เพื่อที่พระองค์จะได้อยู่ด้วยกันกับอิสราเอลประชากรของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรักอิสราเอล และการที่พระเจ้าจะอยู่ในพลับพลาที่มือมนุษย์สร้างขึ้นนั้น มันต้องมีการจ่ายราคาหรือค่าตอบแทน การที่จะทำให้พลับพลาบริสุทธ์ ลูกแกะจะต้องตายเพื่อที่จะนำเลือดมาชำระพลับพลาให้บริสุทธ์

โครงสร้างของพลับพลานั้นทำด้วยไม้ ถูกคลุมด้วยหนังสัตว์ แบ่งเป็นสองห้องกั้นด้วยผ้าม่าน ห้องชั้นในอนุญาตให้เข้าได้เพียงแค่มหาปุโรหิต ห้องชั้นในนั้นเอง ที่เป็นที่ประทับของพระเจ้า พระองค์จะสถิตอยู่ที่พระที่นั่งเมตตาเหนือหีบพันธสัญญา ที่ตรงนั้นมหาปุโรหิตจะต้องเข้าไปเพื่อนำเลือดลูกแกะที่ไม่มีตำหนิไปประพรมที่นั้น บนพระที่นั่งเมตตาเป็นการชำระความบาปให้กับชนชาติอิสราเอล พิธีแบบนี้จะถูกจัดขึ้นปีละครั้ง ทั้งหมดอยู่ในสมัยของพระคัมภีร์เดิม สิ่งที่พระเจ้ากำลังบอกเราผ่านทางพระคัมภีร์เดิมนั้น มันถูกเชื่อมโยงมาถึงสมัยของพระคริสต์ เรารู้ว่าพระเยซูทรงเป็นมหาปุโรหิตของเรา พระองค์ไม่ใช่ปุโรหิตตามแบบอย่างของอาโรนที่เกิดมาตามเผ่าของเลวีแต่พระเยซูนั้นเกิดมาในเผ่าของยูดาห์ และพระองค์ก็ไม่ต้องชำระบาปด้วยเลือดของลูกแกะเหมือนอาโรน นั้นก็เพราะว่า พระเยซูไม่มีบาป และเมื่อพระองค์เป็นมหาปุโรหิตพระองค์ต้องทำหน้าที่นำเลือดของลูกแกะเข้าไปในห้องชั้นใน หรือห้องอภิสุทธิสถาน เพื่อชำระบาปแต่ที่ต่างจากอาโรนนั้นก็คือ พระองค์ไม่ได้เข้าไปในห้องอภิสุทธิสถานที่สร้างด้วยมือของมนุษย์ แต่พระองค์เข้าไปห้องอภิสุทธิสถานที่ตั้งอยู่บนสวรรค์ เพื่อที่จะนำเลือดไปประพรมที่พระที่นั่งเมตตาบนสวรรค์เป็นการชำระบาปให้กับมนุษย์ พระธรรมฮิบรูบทที่ 9:11-14 เลือดที่พระเยซูนำไปคือเลือดของใคร ?

ครั้งแรกที่ยอห์นผู้ให้บัพติสมาเห็นพระเยซูเขาพูดว่าอะไร?.....ยอห์นร้องบอกว่า ยอห์นบทที่ 1:29 " จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย "...ยอห์นเรียกพระเยซูว่า ลูกแกะของพระเจ้า ที่ถูกเตรียมไว้เพื่อชำระความบาปให้กับคนบนโลกนี้ พระเยซูทรงเป็นมหาปุโรหิต ในขณะเดียวกันพระองค์ทรงเป็นลูกแกะ พระองค์ตายบนกางเขนทั้งที่พระองค์ไม่มีบาปไม่มีความผิด ลูกแกะที่อาโรนฆ่าในสมัยพระธรรมอพยพไม่มีความผิดอะไร ลูกแกะตายเพื่อล้างบาปให้กับชนชาติอิสราเอล เช่นเดียวกันลูกแกะของพระเจ้าตายนั้นก็เพื่อล้างบาปให้กับคนทั้งโลก ไม่สำคัญว่าคุณจะพูดภาษาอะไร เป็นชนชาติอะไร เพศไหน พระคริสต์รักคุณและตายเพื่อคุณ ที่พระองค์แตกต่างจากอาโรนอีกอย่างนั้นก็คือ มหาปุโรหิตตามแบบอย่างของอาโรนจะต้องเข้าไปในห้องอภิสุธิสถานทุกปีเพื่อชำระบาป แต่พระคริสต์เข้าไปแค่ครั้งเดียวและไม่ต้องเข้าอีก ตอนที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ เกิดอะไรขึ้นกับผ้าม่านในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม?....ผ้าม่านขาด ผ้าม่านนั้นเป็นสัญลักษณ์กั้นขวางมนุษย์คนบาปกับพระเจ้าผู้บริสุทธ์ แต่พระเยซูคริสต์พระองค์ได้ทรงทำลายกำแพงกั้นขวางนี้เรียบร้อยแล้ว ผ้าม่านฉีกขาด ไม่มีอะไรที่จะมากั้นไม่ให้เราเข้าหาพระเจ้าอีก นี้เรียกว่า พระคุณ....

พระคัมภีร์มีเพียงเล่มเดียวไม่ได้แบ่งใหม่เก่า สิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยพระธรรมอพยพเป็นสัญลักษณ์ที่จะเกิดขั้นในสมัยพระคัมภีร์ใหม่รายละเอียดต่างกันแต่หลักการเหมือนเดิม จากโครงสร้างไม้ที่ถูกคลุมด้วยหนังสัตว์ในสมัยของโมเสส พลับพลาที่ประทับของพระเจ้าก็เปลี่ยนรูปแบบไป ยังไงละ? ทุกครั้งที่ชนชาติอิสราเอลอพยพพวกเขาจะต้องรื้อพลับพลาและแบกอุปกรณ์เดินไปด้วยกันกับเขา จนกระทั่ง กาลเวลาผ่านไปอิสราเอลเข้าไปสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา พวกเขาเป็นประเทศไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มคนที่อพยพ แต่มีประเทศ มีกษัตริย์ปกครอง กษัตริย์คนแรกของอิสราเอลคือ ซาอูล จากนั้นก็ดาวิด...เมื่อดาวิดเสียชีวิต กษัตริย์คนต่อไปคือซาโลมอน พระเจ้าได้ทรงทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ พระเจ้านั้นสัตย์ซื่อ พระองค์บอกไว้แล้วว่าพระองค์จะทรงอยู่ด้วย ไม่ทอดทิ้งไปไหน จากพลับพลาเต็นท์ที่สร้างด้วยไม้คลุมด้วยหนังสัตว์ กลายมาเป็นตัวอาคารที่สร้างด้วยปูน ตกแต่งประดับประดาด้วยอัญมณีที่สวยงามในสมัยของซาโลมอน เราจะเห็นได้ว่ารูปแบบโครงสร้างนั้นแตกต่างกันเพียงภายนอกแต่สิ่งที่สำคัญนั้นก็คือ หลักการเหมือนเดิมที่ต่างกันนั้นก็แค่รายละเอียด วิหารของซาโลมอนถึงแม้จะสร้างด้วยอิฐด้วยปูนแต่ภายในก็ยังคงถูกแบ่งออกเป็นสองห้อง และทั้ง2ห้องถูกกั้นด้วยม่านเหมือนในสมัยของโมเสส และที่สำคัญ ทั้งตัวอาคารและอุปกรณ์ภายในจะต้องถูกชำระด้วยเลือดของลูกแกะก่อน นั้นก็เพราะว่าพระเจ้าบอกว่า เพราะว่าเราบริสุทธ์เจ้าจึงต้องบริสุทธ์ ที่ประทับของพระเจ้าต้องบริสุทธ์ พระวิหารของพระเจ้า ต้องบริสุทธ์ ต้องถูกชำระด้วยเลือดก่อนเพราะว่ามีเพียงเลือดของลูกแกะที่ปราศจากตำหนิเท่านั้นที่สามารถที่จะชำระความบาปได้ เราถูกไถ่ออกมาจากความบาปด้วยสิ่งที่มีราคาสูงยิ่งนั้นคือเลือดของพระคริสต์ ไม่ว่าพระวิหารของพระเจ้านั้นจะมีโครงสร้างแบบไหนก็ตามแต่สิ่งที่สำคัญนั้นก็คือ พระวิหารจะต้องบริสุทธ์พระเจ้าจีงจะประทับที่แห่งนั้นได้

กาลเวลาผ่านไปจากโครงสร้างไม้ เป็นเต็นท์ ในสมัยโมเสสกลายมาเป็นโครงสร้างที่ทำด้วยอิฐด้วยปูนตกแต่งสวยงามในสมัยของซาโลมอน ผ่านไปจนกระทั่งถึงวันที่พระเยซูประสูติ มาถึงวันที่ยอห์นผู้ให้บัพติสมาเห็นพระองค์ครั้งแรกและร้องบอกว่านี้แหละคือ ลูกแกะของพระเจ้าที่ถูกเตรียมไว้เพื่อไถ่บาปคนทั้งโลก จากวันนั้นมาถึงคืนที่พระเยซูอธิฐานในสวนเกทเสมนี พระเยซูอธิษฐานเผื่อเราที่จะมีผู้ช่วยอยู่ด้วยกันกับเราตลอดเวลา เวลาเดินต่อไปจนกระทั่งพระองค์ถูกตรึงบนกางเขน พระโลหิตหลั่งออกมา ช่วงเวลาสุดท้ายที่พระองค์สิ้นพระชนม์ ผ้าม่านที่กั่นขวางห้องชั้นนอกและห้องชั้นในในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มขาด เวลาผ่านไปอีก 3 วันพระองค์ฟื้นคืนพระชนม์ และใช้เวลาอยู่ร่วมกับเหล่าสาวกถึง 40วัน จนกระทั่งวันที่พระองค์จากไปพระองค์บอกว่า จงรอคอยวันที่พระบิดาจะประทานพระผู้ช่วยมาให้กับพวกเขา เวลานั้นก็เดินผ่านไปอีก นี้เป็นความจริงอย่างหนึ่งเวลาไม่เคยหยุดเดินและไม่เคยย้อนกลับ เวลาผ่านไปจนถึงวันเพ็นเทคอตส์ในกิจการบทที่3 พระวิญญาณลงมาสถิตอยู่ในตัวผู้เชื่อ...ย้อนกลับไปที่คำถามถามเปาโลบอกว่า พระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในท่าน ท่าน ที่ถูกอ้างถึงในข้อพระคัมภีร์ข้อนี้ คือใคร? คำตอบก็คือผู้เชื่อคนที่เชื่อว่าพระเยซูคือลูกแกะของพระเจ้าผู้ทรงตายเพื่อไถ่บาปให้กับเรา
พระเจ้าสัตย์ซื่อมีพระคุณกับเราพระองค์ได้จัดเตรียมหนทางที่เราจะได้อยู่ด้วยกันกับพระองค์ แต่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อแลกมาซึ่งสิ่งนี้นั่นก็คือ ลูกแกะที่ไม่มีความผิดจะต้องสียสละแทน...เพื่อที่จะทำให้พระวิหารนั้นบริสุทธ์และเพื่อที่พระองค์จะอยู่ด้วยกันกับเราได้ ตอนนี้ผมจะถามคำถามหนึ่งให้เราตอบคำถามในใจ ท่านรู้มั้ยว่า ท่านป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในท่าน ถ้าคำตอบที่อยู่ในใจเป็น รู้แล้ว อ่านต่อใน 1 โครินธ์บทที่ 6.19-20 " ท่านไม่รู้หรือว่า ร่ากายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธ์ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน ซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง พระเจ้าได้ทรงซื้อท่านไว้เเล้ว ด้วยราคาสูง เหตูฉะนั้น ท่านจงถวายเกียรติเเด่พระเจ้าด้วยร่างกายของท่านเถิด "การที่เราจะได้อยู่กับพระเจ้าได้เป็นพระวิหารของพระเจ้านั้น พระองค์ต้องซื้อเรามาด้วยราคาที่สูงมากๆ และยิ่งถ้าเรานั้นเห็นถึงความสำคัญของตัวเองเหมือนที่พระเจ้าให้ความสำคัญกับเราก็ขอให้เรานั้นให้เกียรติแก่พระวิหารของพระเจ้าชำระให้บริสุทธ์ ถวายเกรียติ แด่พระเจ้าด้วยร่างกายของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น